เลี้ยงลูกเป็นคนดี มีความสุข ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ความคิดสร้างสรรค์นั่นก็คงเป็นนิยามของวิธีแบบฝรั่ง แน่นอนแหละว่าการมีลูกนับเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่และสำคัญอย่างหนึ่ง หลายๆ คนจึงมักเตรียมความพร้อมทั้งด้านการศึกษา บุคลิกภาพ ฯลฯ แต่ผู้ปกครองส่วนในสมัยนี้มักสนใจในสิ่งอื่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น ความฝัน วิธีการเรียน ความเป็นส่วนตัว วิธีการใช้ชีวิตของลูกๆ เรียกได้เลยว่าควบคุมชีวิตของลูกให้เป็นตามที่ต้องการ ดังนั้นมันจึงเป็นการดีเพื่อเรียนรูวิธีการเลี้ยงดูแบบมีความสุขทั้งสองฝ่าย มาเริ่มกันเลย

การแสดงความคิดเห็น
ฝรั่งมักให้ลูกของพวกเขาแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ขอแค่ไม่ขัดต่อหลักศีลธรรม พื้นฐานทางสังคมและความเป็นจริง พวกเขาพร้อมรับฟังอย่างเต็มที่ ไม่มีการมองว่าคำพูดของเด็กไม่มีมูลมากพอ หรือ ความคิดผู้ใหญ่ถูกเสมอ หากฝ่ายผู้ใหญ่ผิดจริง ก็พร้อมที่จะขอโทษ เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนทำผิดได้ทั้งนั้น คำขอโทษจึงเป็นคำสำคัญแก่ทั้งสองวัย นี่จึงส่งผลให้ตัวเด็กมีความมั่นใจ กล้าพูดกล้าทำกล้ารับ และขอโทษอย่างจริงใจโดยไม่มีศักดิ์หรืออื่นๆมาค้ำขอเลย
การเรียน/การศึกษา และเส้นทางความฝัน
อย่างที่รู้กันว่าฝรั่งนั้นไม่ได้เคร่งเรื่องเกรดและการศึกษาในห้องเรียนอย่างเมืองไทย พวกเขาส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยซ้ำ เด็กจะได้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ทั้งยังร่วมลองผิดลองถูกกับเด็กในการหากิจกรรมหรืองานอดิเรกให้ทำ เพื่อให้ตัวเด็กได้ค้นพบในสิ่งที่ชอบจริงๆ ฝ่ายผู้ปกครองจะพยายามสนับสนุนให้เด็กเลือกในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข และสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ไม่ว่าความฝันของเด็กจะเป็นอย่างไร จะซับซ้อน หนทางค่อนข้างยาก ทรหดสักแค่ไหน พวกเขาก็พร้อมที่จะช่วยสรรหาวิธีร่วมกัน เพื่อส่งเด็กๆไปถึงที่หมายที่ใฝ่ฝัน
การลงโทษเมื่อเด็กทำผิด
พวกเขาจะไม่เน้นการใช้ความรุนแรง เตะ ตี ต่อย หรือกักขังหน่วงเหนี่ยว ในขณะที่ไทยเราชอบยึดหลักที่ว่า no pain no gain ทั้งที่พวกเราสามารถใช้วิธีอื่นอย่าง การ be nice to each other กับ use reason ในการจัดการได้แท้ๆ แต่ไทยก็ยังไม่ค่อยนิยมมากนัก กลับกันฝรั่งจะให้ลูกของพวกเขาเข้ามุม โดยกำหนดเวลาในแต่ละครั้ง วิธีนี้ช่วยให้เด็กใจเย็นลง จากนั้นจึงคุยกับเขาด้วยเหตุผลว่าการทำแบบนั้นมันไม่ถูกนะ เพราะมันจะก่อให้เกิดสิ่งนี้ตามมา การทำแบบนี้ช่วยส่งเสริมให้เด็กสำนึกผิดได้จริงๆ มิหนำซ้ำยังเรียนรู้ในเรื่องการใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ร้อนในการแก้ปัญหา ในอีกทางหนึ่ง หากเราเลือกที่ใช้ความรุนแรง เด็กส่วนใหญ่มักไม่ได้สำนึกผิดหรือคิดได้แบบสมบูรณ์ เผลอๆอาจหยุดทำด้วยความหวาดกลัวเฉยๆซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง
ความตรงต่อเวลาและมีวินัย
แน่นอนแหละว่าฝรั่งเป็นคนที่ค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องเวลาอยู่แล้ว เพราะ 1 นาทีของพวกเขาย่อมมีค่า ดังนั้นพวกเขาจึงปลูกฝัง และสอนลูกในเรื่องความสำคัญของเวลาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น การมาสาย 1 ครั้ง จะทำให้ตารางอื่นๆของวันนั้นโดนเลื่อนอย่างไรบ้าง ทั้งบางคนที่ได้รับผลกระทบจากการมาสาย พวกเขาก็ไม่สามารถใช้เวลากับส่วนนั้นได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องไปทำงานหรือรับผิดชอบในส่วนอื่นต่อ การทำแบบนี้จะยิ่งเน้นย้ำให้เด็กได้เลยว่า เวลาเป็นสิ่งสำคัญ และแต่ละคนล้วนไม่อยากให้เวลาที่ใช้นั้นเสียเปล่าหรือตารางเวลาพังนั่นเอง
ส่งเสริมด้านการอ่านตั้งแต่เด็ก
ฝรั่งมักอ่านนิทานให้ลูกฟังตั้งแต่เยาว์วัย ส่วนใหญ่มักเป็นนิทานก่อนนอน มักเริ่มด้วยหนังสือที่มีแต่ภาพเพื่อการจดจำที่ง่าย จากนั้นจึงค่อยเริ่มมีตัวหนังสือให้ร่วมอ่านไปด้วย จากนั้นผู้ใหญ่มักถามสิ่งที่เด็กได้รับและเรียนรู้จากเรื่องนี้ หรือความคิดเห็นโดยรวม เพราะนอกจากจะได้รู้ความคิดของเด็ก ยังเสริมสร้างให้เขามีจินตนการอีกด้วย ท้ายที่สุดหากสิ่งที่เขาคิดมันไม่ถูกต้องหรือผิดตามความเป็นจริง ก็ทำการแก้ไขความเข้าใจผิดนั่นให้เขา
ญี่ปุ่นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความรับผิดชอบ ความตรงต่อเวลา ความมีระเบียบวินัย ความกตัญญูกตเวที ความเคารพหรือให้เกียรติผู้ใหญ่ และความคิดความอ่านที่เฉียบคม ประเทศสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้ หลายๆคนคงสงสัยว่าพวกเขามีวิธีการเลี้ยงลูกอย่างไรละสิ แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีประชาการเด็กไม่ค่อยมากเท่าไร เพราะคนไม่ค่อยนิยมมีลูกกัน อีกทั้งระบบการศึกษาที่เรียกได้ว่าเข้มข้นและแข่งขันกันอย่างสูง จนทำคนเครียดอย่างมากมาแล้ว แต่ก็ยังเลี้ยงลูกได้ดี มาดูกันว่าอะไรคือเคล็ดลับของความสำเร็จเหล่านี้กัน

หาเวลาอยู่กับลูก และพูดคุยสารทุกข์สุขดิบ
คนญี่ปุ่นมักหาเวลาอยู่กับลูกในเวลาว่างอยู่เสมอ อีกทั้งยังชวนคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เวลาลูกมีปัญหา พวกเขาก็พร้อมรับฟัง ไม่มีการมองว่าเดี๋ยวปัญหานี้จะผ่านไป หรือ มองว่าเป็นปัญหาแบบเด็กๆ เพราะทุกคนล้วนรู้ว่าแต่ละวัยมักพบปัญหาที่ต่างกัน ซึ่งบางทีปัญหาแบบนั้นก็อาจถือว่าใหญ่สำหรับเด็กคนหนึ่งก็เป็นได้ จากนั้นจึงค่อยแนะนำแนวทางที่คิดว่าดีรวมถึงเหตุผลในการจัดการ เพื่อแสดงให้เด็กเห็นว่าไม่ว่ายังไงพวกผู้ใหญ่ก็อยู่ข้างๆและคอยให้กำลังใจลูกเสมอ ต่อมาจะทำให้เด็กกล้าที่จะเปิดอกคุยกับผู้ปกครองมากขึ้น
ผิดก็ว่าไปตามผิด
คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “สิ่งเล็กๆในวันนี้อาจนำไปสู่สิ่งที่ใหญ่ในวันหน้า” นี่นับเป็นประโยคหลักที่คอยสอนชาวญี่ปุ่นไม่ให้ละเลยเวลาลูกทำผิด หรือ เมื่อเด็กทำผิด พวกเขาจะไม่มีการปกป้องลูกจากความผิดที่เกิดขึ้น แต่จะเข้าไปสอนอย่างใจเย็นและพยายามอธิบายเหตุผลให้เข้าใจโดยง่าย รวมถึงสอนให้ลองคิดในมุมของคนอื่นที่คิดต่อสิ่งที่เราทำ หากเราเป็นเขาคงรู้สึกแย่ไม่ใช่น้อย จากนั้นจึงให้พูดขอโ?ษอย่างจริงใจ เพราะเด็กได้เรียนรู้การเอาใจเขามาใส่ใจเราในก่อนหน้านี้แล้ว
ขอบคุณกับขอโทษ เป็นเรื่องสำคัญ
แน่นอนแหละว่า คำว่าขอบคุณและขอโทษที่ดูเหมือนคำธรรมดา แต่กลับมีพาวเวอร์หรือพลังที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอิ่มเอมใจและซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นมักสอนลูกเสมอว่า เวลามีคนทำอะไรให้เรา แล้วเรารู้สึกพิเศษมากๆ สิ่งที่ดีที่สุดในการตอบแทน คือคำว่าขอบคุณ เพราะผู้ฟังสามารถรับรู้ความจริงใจจากคำที่เปล่งออกมาจากปากเราได้ มิหนำซ้ำยังเป็นการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในสังคมอีกด้วย นอกจากนี้หากทำผิดละรู้สึกละอายใจ สิ่งที่ควรทำย่อมเป็นคำพูดว่า ขอโทษ เพราะหากเราละเลยหรือปล่อยเบลอ อีกฝ่ายอาจรู้สึกได้ถึงความแข็งกร้าวหรือความไม่จริงใจจากตัวเรา ทั้งที่เรารู้ตัวว่าผิด สุดท้ายคือคำว่าขอโทษและขอบคุณไม่เคยทำให้ใครดูแย่ มีแต่จะสานและสร้างมิตรภาพที่ดีในอนาคตอีกด้วย
ตรงต่อเวลายิ่งกว่านาฬิกา
ความตรงต่อเวลานับเป็นเอกลักษณ์สำคัญของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว พวกเขามักสอนลูกในเรื่องของเวลาอยู่เสมอ โดยเริ่มจากการตื่นนอนในตอนเช้า เข้านอนในตอนกลางคืน แม้กระทั่งช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดสำคัญต่างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้ลูกทานข้าวให้ตรงเวลา เพราะอย่างที่รู้กันว่ามื้อเช้าสำคัญ และคงไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเองเป็นโรคกระเพาะจากการกินไม่ตรงตามเวลาหรอก นอกจากนี้ยังสอนให้เด็กไปโรงเรียนให้ทัน โดยต้องกำหนดเวลาในการทำธุระส่วนตัวหรือกิจวัตรในตอนเช้าให้อยู่ในขอบเขต เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการไปโรงเรียนสาย บางคนอาจเดินไปเรียนได้เพราะบ้านใกล้ แต่บางคนต้องอาศัยรถบัส รถไฟฟ้าในการเดินทางยิ่งทำให้ต้องตรงเวลามากกว่า เพราะระบบคมนาคมของญี่ปุ่นั้นขึ้นชื่อเรื่องความเป๊ะอยู่แล้ว ถ้าพลาดก็คือสายแน่นอน
ความเชื่อเกี่ยวกับเด็กนั้นมีหลากหลายอย่างมาก เพราะพวกเค้าให้ความสำคัญกับเด็กที่สุดในแต่ละกลุ่มสังคม ไทยเราเองก็มีความเชื่อแบบนั้นด้วยเหมือนกัน ประเพณีความเชื่อเกี่ยวกับเด็กที่เราเชื่อกันมากที่สุดก้คือ โกนผมไฟ ประเพณีคืออะไร แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกัน (more…)
ช่วงเวลาสำคัญของการเลี้ยงลูกก็คือ ช่วงเวลาวัยทารกตั้งแต่ 0-3 ปี ช่วงเวลานี้พ่อแม่ต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ ต้องคอยดูอยู่ไม่ห่าง ประคบประหงมกันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากปัญหาในช่วงวัยทารกจะเยอะมากที่สุดที่สำคัญก็คือ เค้ายังบอกไม่ได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร เอาแค่ปวดหัวเค้ายังบอกไม่ได้เลย พ่อแม่จึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับปัญหาของเด็กทารกเพื่อสังเกตพฤติกรรมด้วย ปัญหาของเด็กทารกมีอะไรบ้าง และแก้ไขอย่างไร (more…)
ช่วงเวลาใกล้คลอดเป็นช่วงเวลาที่หลายครอบครัวต้องมีความรู้สึกแตกต่างกันไป บางคนก็ตื่นเต้น ลุ้นจะได้เจอหน้าลูก หน้าหลาน แต่บางคนก็เริ่มที่จะรู้สึกเป็นกังวลถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น กลัวว่าจะเตรียมตัวไม่ทัน คุณแม่เองในช่วงเวลานั้นคงเครียดอยู่ ดังนั้นคุณพ่ออย่างเราก็สามารถช่วยเหลือได้ด้วยการเตรียมของแทนเพื่อให้คุณแม่เตรียมตัว เตรียมใจอย่างสบายใจ ว่าแต่คุณพ่อควรเตรียมของก่อนคลอดอะไรบ้าง (more…)
สำหรับคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายต่างก็จะเจอปัญหาเหมือนๆกันสำหรับเด็กเล็กที่จะมีอาการร้องไห้งอแงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราจะมาบอกถึงต้นเหตุเหล่านั้นและวิธีปลอบโยนพวกเด็กๆว่ามีอะไรบาง เช่น (more…)
คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์เราทุกคนนั้นเมื่อถึงช่วงวัยที่เหมาะสมแล้ว การสืบทอดทายาทถือเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะว่าการที่เรามีลูกนั้นเปรียบเสมือนเป็นการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะในยามที่เราแก่ตัวลงนั้นลูกของเราจะเป็นหลักให้เราในยามที่เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั่นเอง (more…)
สวัสดีครับ เชื่อว่าหลายคนคงจะแปลกใจกลับหัวข้อของเรื่องนี้แล้วใช่ไหมครับ ไม่ผิดหรอกนะครับ ผมก็แทบไม่เชื่อตัวเองเหมือนกันว่าผมจะทำมันได้จริงๆ ต้นเหตุมาจากที่ว่าแฟนผมไม่มีเวลาที่จะเลี้ยงดูลูกเองครับ ต้องทำงานออฟฟิศ ซึ่งทางนั้นให้ลาคลอดลูกแค่ 1 เดือนเท่านั้นเองครับ (more…)