สำหรับการเลี้ยงลูกนั้น ช่วงเวลา 0-3 ขวบถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี้ยงดู เจ็บป่วย ฯลฯ หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่พ่อแม่ทุกคนต้องเจอก็คือ การมองหาพี่เลี้ยงลูกในช่วงเวลาที่เราต้องไปทำงาน การเลือกพี่เลี้ยงให้กับลูกน้อยมีเทคนิคการเลือกอย่างไร
เลือกจากศูนย์ดีกว่า

เดี๋ยวนี้การเลือกพี่เลี้ยงเราจะไม่ใช่วิธีบอกแบบปากต่อปากกันแล้ว ทางที่ดีควรเลือกพี่เลี้ยงจากศูนย์พี่เลี้ยงเด็กจะดีกว่า เพราะศูนย์เหล่านี้จะมีข้อมูลพื้นฐานของพี่เลี้ยงคนนั้นอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นชื่อที่อยู่ แถมยังมีการอบรมเรื่องการทำงานเป็นอย่างดี ทำให้เราเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่งว่า ลูกของเราจะปลอดภัยเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่คุ้มค่าความปลอดภัยกว่าเยอะ
พี่เลี้ยงต่างด้าว ต้องทำใจ
หลายคนมีปัญหาเรื่องการจัดการค่าเลี้ยงดูพี่เลี้ยงเด็ก ทำให้ต้องหันไปเลือกพี่เลี้ยงเด็กที่เป็นชาวต่างชาติแน่นอนว่าพี่เลี้ยงที่มาจากชาวต่างประเทศพวกเธอก็มีจิตใจที่ดีไม่แพ้คนไทยเหมือนกัน(ดีไม่ดีมีกันทุกชาติ) แต่เรื่องหนึ่งที่เราต้องทำใจและเข้าใจก็คือ พี่เลี้ยงต่างด้าวหลายคนสำเนียงการพูดไทยจะไม่ชัดเจน เมื่ออยู่กับลูกเราสองต่อสอง จะทำให้การสื่อสารกับลูกเรายากลำบากหน่อย ที่สำคัญจะทำให้ลุกเราพูดไทยไม่ค่อยชัดด้วย เนื่องจากได้ยินต้นฉบับมาจากพวกเค้า
การศึกษา
จริงอยู่ว่าการศึกษาอาจจะไม่ได้เป็นตัวกำหนดชี้วัดทุกอย่างได้ แต่การศึกษาก็พอจะบอกอะไรบางอย่างได้เหมือนกัน ทางที่ดีหากจะเลือกพี่เลี้ยงเด็กให้ดีควรจะมีวุฒิการศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) เป็นอย่างน้อยจะดีกว่า ส่วนอายุควรจะมี 20 ปีขึ้นไปกำลังดี หากน้อยกว่านี้คงไม่ไหวเด็กเกินไป อาจจะทำอะไรไม่คิดได้
สุขภาพ
พี่เลี้ยงเป็นคนที่อยู่กับลูกเราตลอดทั้งวัน สิ่งหนึ่งที่พี่เลี้ยงจะต้องมีเลยก็คือสุขภาพต้องดี อย่างแรกหากพี่เลี้ยงสุขภาพไม่ดี อาจจะทำให้โรคมาติดลูกเราได้ ลองนึกภาพพี่เลี้ยง ไอ จาม รดลูกเราเวลาไม่มีใครอยู่บ้าน ตกเย็นก็เตรียมไปหาหมอได้เลย อีกอย่างหนึ่งถ้าพี่เลี้ยงไม่สบายบ่อย ก็อาจจะทำให้ขาดงานดูแลไม่ต่อเนื่อง ทำให้เราจัดการเวลาไม่ได้อีก
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญเลยก็คือ ต้องดูว่าพี่เลี้ยงติดโทรศัพท์มือถือมากน้อยแค่ไหน หากติดมากก็อาจจะทำให้ลูกเราติดโทรศัพท์ตามไปด้วย อาจจะทำให้เกิดปัญหาด้านพฤติกรรมตามมาภายหลังอีก นี่เป็นเทคนิคเบื้องต้นของการเลือกพี่เลี้ยงเด็กที่เราไว้ใจ